รักษ์สุขภาพ - ตอนที่ 32 เครื่องดื่ม (4)

  • โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
  • 27 สิงหาคม 2568
  • Tweet

งานวิจัยชิ้นที่ 2 ทำการศึกษาที่แคนาดา แบบติดตามผลของกลุ่มไปข้างหน้า (Prospective cohort study) โดยนำคนอายุ 65 ปีขึ้นไป ที่มีสมองยังดีอยู่ จำนวน 6,000 กว่าราย มาตรวจนานาปัจจัยเสียง (Risk) ที่อาจเป็นสาเหตุ (Cause) หรืออาจช่วยป้องกันสมองเสื่อม แล้วบันทึก (Record) ไว้

หลังจากนั้นอีก 5 ปี จึงตามไปดูคนกลุ่มนี้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพบว่า เหลืออยู่ 3,894 ราย ในจำนวนนี้กลายเป็นผู้ป่วยสมองเสื่อมไป 194 ราย เมื่อวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ แล้ว สรุปได้ว่า ปัจจัยที่สัมพันธ์กับสมองเสื่อมได้แก่ การมีอายุมาก, มีการศึกษาระดับต่ำ, และมี Gene สมองเสื่อม โดยกรรมพันธุ์ (Genetics) ส่วนปัจจัยที่สัมพันธ์กับการที่สมองไม่เสื่อม ได้แก่ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ, การดื่มกาแฟ, และการใช้ยาแก้ปวดลดการอักเสบ  (Non-steroid anti-inflammatory drug: NSAID)

ประจักหลักฐาน (Evidence) จากงานวิจัยที่มหาวิทยาลัย Harvard นาน 12 ปี โดยติดตามพยาบาล 40,000+ ราย พบว่า พยาบาลที่ดื่มกาแฟมาก เป็นเบาหวาน (Diabetes) น้อยกว่า พยาบาลที่ไม่ดื่มกาแฟเลย หรือดื่มกาแฟน้อย

งานวิจัยหนึ่งเปรียบเทียบ พบว่าผู้ดื่มกาแฟมาก (วันละเกิน 3 ถ้วยครึ่ง) เป็นโรคพาร์คินสัน (Parkinson’s) น้อยกว่าไม่ผู้ดื่มกาแฟ อีกงานวิจัยหนึ่ง ติดตามดูกลุ่มคน (Cohort) ซึ่งต่อมา มีชายเป็นพาร์คินสัน 197 ราย และหญิงเป็นพาร์คินสัน 120 ราย สรุปได้ว่า คนยิ่งดื่มกาแฟมาก ยิ่งมีโอกาสเป็นพาร์คินสันน้อย

งานวิจัยแบบสุ่มตัวอย่าง (Random sampling) แบ่งกลุ่มเปรียบเทียบ ให้ผู้ป่วยพาร์คินสันกินยาเม็ดคาเฟอีน (Caffeine) วันละ 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เทียบกับยาหลอก (Placebo) นาน 6 สัปดาห์ พบว่า คาเฟอีน ไม่ลดอาการง่วงเหงาหาวนอน (Sleepiness) ตอนกลางวันลงแต่อย่างใด แต่ทำให้การเคลื่อนไหว (Movement) ของร่างกายแบบจงใจ (Deliberate) ในผู้ป่วยพาร์คินสันดีขึ้น

การติตตามดูกลุ่มผู้สูงอายุ (Elderly) ในงานวิจัย NIH-AARP [National Institutes of Health (สถาบันสุขภาพแห่งชาติ) และ American Association of Retired Persons (สมาคมผู้เกษียณอายุแห่งอเมริกา] จำนวนราว 400,000 ราย ในเวลา 14 ปี เพื่อหาความสัมพันธ์ ระหว่างการดื่มกาแฟ กับอัตราการตาย (Mortality rate) พบว่า ผู้ดื่มกาแฟมาก มีอัตราการตายรวม ต่ำกว่าผู้ดื่มกาแฟน้อย หรือไม่ดื่มกาแฟเลย ความสัมพันธ์นี้อยู่ในช่วงการดื่มกาแฟวันละ 0 – 6 ถ้วย

ข้อดีอื่นๆ ของกาแฟ ได้แก่

  1. การลดโอกาสการเป็นนิ่วในถุงน้ำดี (Gallstone)
  2. ผู้ดื่มกาแฟเป็นเก๊าต์ (Gout) น้อยกว่าผู้ไม่ดื่มกาแฟ
  3. กาแฟกระตุ้นลำไส้ใหญ่ (Colon) ให้ขับถ่ายอุจจาระได้สะดวก
  4. ผู้ดื่มกาแฟเป็นมะเร็ง (Cancer) ในปาก, หลอดอาหาร (Esophagus), ลำคอ (Throat), เต้านม (Breas), เยื่อบุโพรงมดลูก (Endometrium), ตับ (Liver), และต่อมลูกหมาก (Prostate) น้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ

แหล่งข้อมูล – 

  1. สันต์ ใจยอดศิลป์, นพ. (2560). สุขภาพดีด้วยตัวคุณเอง: Good Health by Yourself (eBook). พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ: บริษัท พิมพ์สวย จำกัด.
  2. สันต์ ใจยอดศิลป์, นพ. และ พญ. ดร. พิจิกา วัชราภิชาต (2566). Healthy Life Bible คัมภีร์สุขภาพดี: สุขภาพดีได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง. พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ: บริษัท ฟรีมาย์ พับลิชชิ่ง จำกัด.